Artwork

תוכן מסופק על ידי 9Natree. כל תוכן הפודקאסטים כולל פרקים, גרפיקה ותיאורי פודקאסטים מועלים ומסופקים ישירות על ידי 9Natree או שותף פלטפורמת הפודקאסט שלהם. אם אתה מאמין שמישהו משתמש ביצירה שלך המוגנת בזכויות יוצרים ללא רשותך, אתה יכול לעקוב אחר התהליך המתואר כאן https://he.player.fm/legal.
Player FM - אפליקציית פודקאסט
התחל במצב לא מקוון עם האפליקציה Player FM !

[รีวิว] The Simple Path to Wealth (JL Collins) สรุปหนังสือ

8:46
 
שתפו
 

Manage episode 486586747 series 3664855
תוכן מסופק על ידי 9Natree. כל תוכן הפודקאסטים כולל פרקים, גרפיקה ותיאורי פודקאסטים מועלים ומסופקים ישירות על ידי 9Natree או שותף פלטפורמת הפודקאסט שלהם. אם אתה מאמין שמישהו משתמש ביצירה שלך המוגנת בזכויות יוצרים ללא רשותך, אתה יכול לעקוב אחר התהליך המתואר כאן https://he.player.fm/legal.
ประเด็นที่น่าสนใจของหนังสือ The Simple Path to Wealth เขียนโดย JL Collins
- พิกัด Lazada/Shopee: https://9natree.top/book/TheSimplePathtoWealth
- พิกัด Kinokuniya: https://9natree.top/p/Kinokuniya/TheSimplePathtoWealth
- Kindle [EN] : https://www.amazon.com/dp/B0DT7CM52P?tag=9natree-20
#TheSimplePathtoWealth #รีวิวTheSimplePathtoWealth #สรุปTheSimplePathtoWealth #หนังสือTheSimplePathtoWealth
1. "เส้นทางง่ายๆ สู่ความมั่งคั่ง" คืออะไร และหลักการพื้นฐานในการสร้างความมั่งคั่งมีอะไรบ้าง?
"เส้นทางง่ายๆ สู่ความมั่งคั่ง" เป็นแนวทางที่เน้นความเรียบง่ายและประสิทธิภาพในการลงทุน ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ตลอดชีวิต หลักการพื้นฐานสามข้อที่ JL Collins แนะนำคือ:
ใช้จ่ายให้น้อยกว่าที่หารายได้: นี่คือรากฐานสำคัญของการสร้างความมั่งคั่ง คุณต้องสร้างส่วนเกินจากการใช้จ่ายเพื่อนำไปลงทุน การควบคุมความต้องการและหลีกเลี่ยง "เงินเฟ้อของไลฟ์สไตล์" เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มีเงินออมมากขึ้น
นำส่วนเกินไปลงทุน: เมื่อคุณมีเงินเหลือจากการใช้จ่าย คุณควรนำไปลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เงินของคุณงอกเงย การลงทุนในตลาดหุ้นได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์
หลีกเลี่ยงหนี้สิน: หนี้สิน โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ถือเป็นภาระที่ไม่อาจยอมรับได้และเป็นอุปสรรคที่อันตรายที่สุดในการสร้างความมั่งคั่ง แม้แต่ "หนี้ดี" เช่น สินเชื่อธุรกิจหรือสินเชื่อจำนอง ควรใช้ด้วยความระมัดระวังสูงสุด และหากเป้าหมายคืออิสรภาพทางการเงิน ควรมีหนี้ให้น้อยที่สุด

2. ทำไมผู้เขียนถึงแนะนำให้ลงทุนในกองทุนดัชนีรวมตลาดหุ้น และกองทุนดัชนีรวมตลาดตราสารหนี้ และอะไรคือประโยชน์หลักของกองทุนเหล่านี้?
ผู้เขียนแนะนำให้ลงทุนในกองทุนดัชนีรวมตลาดหุ้นและตราสารหนี้ เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่าย มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่าที่สุดสำหรับนักลงทุนรายย่อยในการสร้างความมั่งคั่ง:
กองทุนดัชนีรวมตลาดหุ้น : กองทุนนี้ถือหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาทุกแห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทประมาณ 3,600 แห่ง การลงทุนใน VTSAX เท่ากับการเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวม ประโยชน์หลักคือ "การชำระล้างตัวเอง" หมายความว่าบริษัทที่อ่อนแอจะถูกคัดออกและถูกแทนที่ด้วยบริษัทที่เติบโตและประสบความสำเร็จใหม่ๆ โดยอัตโนมัติ ทำให้ดัชนีมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นในระยะยาวเสมอ นอกจากนี้ยังหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการพยายามเลือกหุ้นรายตัวหรือจับจังหวะตลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังทำไม่ได้อย่างสม่ำเสมอ
กองทุนดัชนีรวมตลาดตราสารหนี้ : กองทุนนี้ประกอบด้วยตราสารหนี้คุณภาพสูงจำนวนมาก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกรายเดียว และช่วยลดความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากถือพันธบัตรที่มีวันครบกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน วัตถุประสงค์หลักของตราสารหนี้ในพอร์ตโฟลิโอคือการทำให้การลงทุนราบรื่นขึ้น สร้างรายได้เล็กน้อย และเป็นเครื่องป้องกันภาวะเงินฝืด

3. "เงิน F-You" คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่ออิสรภาพทางการเงิน?
"เงิน F-You" หมายถึงเงินเก็บจำนวนมากพอที่จะทำให้คุณมีทางเลือกในชีวิต และสามารถปฏิเสธสิ่งที่คุณไม่ต้องการทำได้ ไม่ได้เกี่ยวกับ "การเกษียณอายุ" แต่เกี่ยวกับ "การมีอิสระ" ผู้เขียนระบุว่านี่คือเป้าหมายหลักของการแสวงหาอิสรภาพทางการเงิน คือการมีอำนาจที่จะพูดว่า "ไม่" กับงานที่ไม่ชอบ หรือสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่พึงประสงค์ มันเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณควบคุมชะตาชีวิตทางการเงินของตัวเองได้มากขึ้น และให้คุณค่ากับเวลาและอิสรภาพมากกว่าการใช้จ่ายเพื่อสิ่งของ

4. ผู้เขียนแนะนำให้คิดถึง "เงิน" ในแง่ใด เพื่อให้สร้างความมั่งคั่งได้จริง?
ผู้เขียนเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนกรอบความคิดเกี่ยวกับเงิน:
หยุดคิดว่าเงินของคุณสามารถซื้ออะไรได้บ้าง: ผู้คนจำนวนมาก รวมถึงผู้ที่มีรายได้สูง ประสบปัญหาทางการเงินเพราะมองว่าเงินเป็นเพียงเครื่องมือในการซื้อสิ่งของต่างๆ ซึ่งนำไปสู่การใช้จ่ายเกินตัว
เริ่มคิดว่าเงินของคุณสามารถสร้างรายได้อะไรได้บ้าง: นี่คือระดับความคิดที่สำคัญกว่า เมื่อคุณเริ่มมองเงินว่าเป็นเครื่องจักรในการสร้างรายได้ คุณจะให้ความสำคัญกับการลงทุนและการงอกเงยของเงิน
คิดต่อไปว่าเงินที่เงินของคุณสร้างรายได้นั้นสามารถสร้างรายได้อะไรได้อีก: นี่คือแนวคิดของดอกเบี้ยทบต้น ซึ่งเป็นพลังที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างความมั่งคั่ง เมื่อคุณเข้าใจว่าเงินของคุณสามารถทำงานให้คุณได้ และเงินที่ได้มาจากการทำงานนั้นก็สามารถทำงานต่อได้อีก คุณจะเห็นเส้นทางสู่ความมั่งคั่งอย่างชัดเจน

5. ตลาดหุ้นมีความผันผวนและอาจเกิดวิกฤตได้บ่อยครั้ง นักลงทุนควรจัดการกับความกลัวและความโลภที่มาพร้อมกับความผันผวนนี้อย่างไร?
ตลาดหุ้นขึ้นลงเป็นเรื่องปกติ วิกฤตการณ์ ตลาดหมี และการปรับฐานเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่คาดหวังได้ และไม่เคยเป็นจุดสิ้นสุดของโลก ผู้เขียนเน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญดังนี้:
คาดการณ์การปรับตัวลงของตลาด: วิกฤตการณ์ทางการเงินในระดับเดียวกับปี 2008 สามารถเกิดขึ้นได้ทุกๆ 25 ปี หรือบ่อยกว่านั้น แต่ตลาดจะกลับมาสูงขึ้นเสมอในระยะยาว
อย่าพยายามจับจังหวะตลาด : ไม่มีใครสามารถทำนายการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างน่าเชื่อถือ การพยายามซื้อเมื่อตลาดต่ำสุดและขายเมื่อตลาดสูงสุดเป็นเกมที่แพ้มาโดยตลอด และจะทำให้คุณพลาดโอกาสในการเติบโตที่สำคัญ
พัฒนาระเบียบวินัยทางอารมณ์: ความกลัวและความโลภเป็นอารมณ์หลักที่ขับเคลื่อนนักลงทุน ความกลัวจะทำให้คุณไม่กล้าลงทุน หรือขายทิ้งด้วยความตื่นตระหนกเมื่อตลาดตก ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เลวร้ายที่สุด สิ่งสำคัญคือต้อง "ทำให้ใจคุณพร้อม" และยอมรับความเสี่ยงที่มาพร้อมกับผลตอบแทนที่คุณต้องการ หากคุณไม่สามารถรับได้เมื่อความมั่งคั่งของคุณลดลงครึ่งหนึ่ง และยังคงยึดมั่นในแผนการลงทุน ก็ยังไม่ควรลงทุนในหุ้น

6. มีคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดสรรสินทรัพย์ ในพอร์ตโฟลิโออย่างไร และควรพิจารณาปัจจัยใดบ้าง?
ผู้เขียนให้คำแนะนำการจัดสรรสินทรัพย์ทั่วไปสำหรับพอร์ตโฟลิโอที่เรียบง่าย โดยมีสัดส่วนดังนี้:
หุ้น 75%: ในรูปของ VTSAX ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของพอร์ตโฟลิโอเพื่อการเติบโตของความมั่งคั่งระยะยาว
พันธบัตร 20%: ในรูปของ VBTLX เพื่อช่วยทำให้การลงทุนในหุ้นราบรื่นขึ้น สร้างรายได้ และเป็นเครื่องป้องกันภาวะเงินฝืด
เงินสด 5%: ในรูปของ VMRXX เพื่อรองรับความต้องการใช้จ่ายและเป็นสภาพคล่อง
คุณสามารถปรับสัดส่วนเหล่านี้ได้ตามความเหมาะสมกับปัจจัยส่วนตัว:
ช่วงอายุ: ในช่วงวัยหนุ่มสาวและอยู่ในช่วงสะสมความมั่งคั่ง ผู้เขียนแนะนำให้เน้นหุ้นเกือบทั้งหมด เพื่อใช้ประโยชน์จากผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว
ความทนทานต่อความผันผวน : หากคุณต้องการการลงทุนที่ราบรื่นขึ้นและยอมรับผลตอบแทนระยะยาวที่อาจต่ำลงได้ ให้เพิ่มสัดส่วนใน VBTLX แต่หากคุณสบายใจกับความผันผวนและต้องการการเติบโตที่สูงขึ้น ให้เพิ่มสัดส่วนใน VTSAX
แผนในอนาคต: เมื่อเข้าใกล้ช่วงเกษียณอายุ คุณอาจพิจารณาเพิ่มสัดส่วนของพันธบัตรเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตโฟลิโอ

7. ทำไมผู้เขียนถึงเป็นผู้สนับสนุน Vanguard อย่างแข็งขัน และอะไรคือสิ่งที่ทำให้บริษัทนี้ "พิเศษ" ในสายตาของผู้เขียน?
ผู้เขียนเป็นผู้สนับสนุน Vanguard อย่างแข็งขัน เนื่องจากโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์และพันธกิจของบริษัทที่มุ่งเน้นประโยชน์ของนักลงทุน:
เป็นของลูกค้า : Vanguard เป็นเจ้าของโดยกองทุนเอง ซึ่งในทางกลับกันก็เป็นของลูกค้า ดังนั้นจึงไม่มีผู้ถือหุ้นภายนอกที่ต้องแสวงหากำไร
ดำเนินการโดยมีต้นทุนต่ำที่สุด : เนื่องจาก Vanguard เป็นของลูกค้า บริษัทจึงมีเป้าหมายในการดำเนินงานโดยคิดค่าใช้จ่ายที่ต่ำที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า
ค่าธรรมเนียมต่ำมาก : เป็นผลมาจากโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ Vanguard สามารถเสนอค่าธรรมเนียมการจัดการที่ต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มผลตอบแทนสุทธิให้กับนักลงทุนในระยะยาว
มุ่งเน้นที่กองทุนดัชนี: Vanguard เป็นผู้บุกเบิกกองทุนดัชนี ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการลงทุน
ผู้เขียนยืนยันว่าเขาไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ จาก Vanguard การแนะนำของเขาเป็นเพียงเพราะความเชื่อมั่นในปรัชญาและรูปแบบธุรกิจที่เอื้อประโยชน์แก่นักลงทุนรายย่อยมากที่สุด

8. การบรรลุอิสรภาพทางการเงินหมายถึงอะไร และต้องใช้เงินเท่าไรในการไปถึงจุดนั้น?
การบรรลุอิสรภาพทางการเงินหมายถึงการมีเงินเก็บมากพอที่รายได้จากการลงทุนสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายประจำปีของคุณได้ ผู้เขียนเสนอ "กฎ 4%" เป็นแนวทาง:
กฎ 4%: หาก 4% ของสินทรัพย์ที่คุณลงทุนสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายประจำปีของคุณได้ คุณก็ถือว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว
เป้าหมายการลงทุน: กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การมีเงินลงทุนเท่ากับ 25 เท่าของค่าใช้จ่ายประจำปีของคุณ
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่ายปีละ 60,000 ดอลลาร์ คุณจะต้องมีเงินลงทุน 1,500,000 ดอลลาร์ เพื่อบรรลุอิสรภาพทางการเงิน
ซึ่งหมายความว่า การมีอิสรภาพทางการเงินนั้นเกี่ยวข้องกับการควบคุมความต้องการและการใช้จ่ายของคุณมากพอๆ กับการสร้างสินทรัพย์ หากค่าใช้จ่ายของคุณสูง เป้าหมายเงินที่คุณต้องการก็จะสูงขึ้นอย่างมาก
เมื่อถึงจุดนี้ คุณจะมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่จะขยายไลฟ์สไตล์ คิดเกี่ยวกับการให้เหมือนมหาเศรษฐี มีลูกหากวางแผนไว้ และพิจารณาซื้อบ้านเมื่อคุณสามารถซื้อได้อย่างง่ายดายและเป็นเพียง "ความสุขส่วนตัวที่แพง" ไม่ใช่การลงทุน


  continue reading

71 פרקים

Artwork
iconשתפו
 
Manage episode 486586747 series 3664855
תוכן מסופק על ידי 9Natree. כל תוכן הפודקאסטים כולל פרקים, גרפיקה ותיאורי פודקאסטים מועלים ומסופקים ישירות על ידי 9Natree או שותף פלטפורמת הפודקאסט שלהם. אם אתה מאמין שמישהו משתמש ביצירה שלך המוגנת בזכויות יוצרים ללא רשותך, אתה יכול לעקוב אחר התהליך המתואר כאן https://he.player.fm/legal.
ประเด็นที่น่าสนใจของหนังสือ The Simple Path to Wealth เขียนโดย JL Collins
- พิกัด Lazada/Shopee: https://9natree.top/book/TheSimplePathtoWealth
- พิกัด Kinokuniya: https://9natree.top/p/Kinokuniya/TheSimplePathtoWealth
- Kindle [EN] : https://www.amazon.com/dp/B0DT7CM52P?tag=9natree-20
#TheSimplePathtoWealth #รีวิวTheSimplePathtoWealth #สรุปTheSimplePathtoWealth #หนังสือTheSimplePathtoWealth
1. "เส้นทางง่ายๆ สู่ความมั่งคั่ง" คืออะไร และหลักการพื้นฐานในการสร้างความมั่งคั่งมีอะไรบ้าง?
"เส้นทางง่ายๆ สู่ความมั่งคั่ง" เป็นแนวทางที่เน้นความเรียบง่ายและประสิทธิภาพในการลงทุน ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ตลอดชีวิต หลักการพื้นฐานสามข้อที่ JL Collins แนะนำคือ:
ใช้จ่ายให้น้อยกว่าที่หารายได้: นี่คือรากฐานสำคัญของการสร้างความมั่งคั่ง คุณต้องสร้างส่วนเกินจากการใช้จ่ายเพื่อนำไปลงทุน การควบคุมความต้องการและหลีกเลี่ยง "เงินเฟ้อของไลฟ์สไตล์" เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มีเงินออมมากขึ้น
นำส่วนเกินไปลงทุน: เมื่อคุณมีเงินเหลือจากการใช้จ่าย คุณควรนำไปลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เงินของคุณงอกเงย การลงทุนในตลาดหุ้นได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์
หลีกเลี่ยงหนี้สิน: หนี้สิน โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ถือเป็นภาระที่ไม่อาจยอมรับได้และเป็นอุปสรรคที่อันตรายที่สุดในการสร้างความมั่งคั่ง แม้แต่ "หนี้ดี" เช่น สินเชื่อธุรกิจหรือสินเชื่อจำนอง ควรใช้ด้วยความระมัดระวังสูงสุด และหากเป้าหมายคืออิสรภาพทางการเงิน ควรมีหนี้ให้น้อยที่สุด

2. ทำไมผู้เขียนถึงแนะนำให้ลงทุนในกองทุนดัชนีรวมตลาดหุ้น และกองทุนดัชนีรวมตลาดตราสารหนี้ และอะไรคือประโยชน์หลักของกองทุนเหล่านี้?
ผู้เขียนแนะนำให้ลงทุนในกองทุนดัชนีรวมตลาดหุ้นและตราสารหนี้ เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่าย มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่าที่สุดสำหรับนักลงทุนรายย่อยในการสร้างความมั่งคั่ง:
กองทุนดัชนีรวมตลาดหุ้น : กองทุนนี้ถือหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาทุกแห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทประมาณ 3,600 แห่ง การลงทุนใน VTSAX เท่ากับการเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวม ประโยชน์หลักคือ "การชำระล้างตัวเอง" หมายความว่าบริษัทที่อ่อนแอจะถูกคัดออกและถูกแทนที่ด้วยบริษัทที่เติบโตและประสบความสำเร็จใหม่ๆ โดยอัตโนมัติ ทำให้ดัชนีมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นในระยะยาวเสมอ นอกจากนี้ยังหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการพยายามเลือกหุ้นรายตัวหรือจับจังหวะตลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังทำไม่ได้อย่างสม่ำเสมอ
กองทุนดัชนีรวมตลาดตราสารหนี้ : กองทุนนี้ประกอบด้วยตราสารหนี้คุณภาพสูงจำนวนมาก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกรายเดียว และช่วยลดความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากถือพันธบัตรที่มีวันครบกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน วัตถุประสงค์หลักของตราสารหนี้ในพอร์ตโฟลิโอคือการทำให้การลงทุนราบรื่นขึ้น สร้างรายได้เล็กน้อย และเป็นเครื่องป้องกันภาวะเงินฝืด

3. "เงิน F-You" คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่ออิสรภาพทางการเงิน?
"เงิน F-You" หมายถึงเงินเก็บจำนวนมากพอที่จะทำให้คุณมีทางเลือกในชีวิต และสามารถปฏิเสธสิ่งที่คุณไม่ต้องการทำได้ ไม่ได้เกี่ยวกับ "การเกษียณอายุ" แต่เกี่ยวกับ "การมีอิสระ" ผู้เขียนระบุว่านี่คือเป้าหมายหลักของการแสวงหาอิสรภาพทางการเงิน คือการมีอำนาจที่จะพูดว่า "ไม่" กับงานที่ไม่ชอบ หรือสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่พึงประสงค์ มันเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณควบคุมชะตาชีวิตทางการเงินของตัวเองได้มากขึ้น และให้คุณค่ากับเวลาและอิสรภาพมากกว่าการใช้จ่ายเพื่อสิ่งของ

4. ผู้เขียนแนะนำให้คิดถึง "เงิน" ในแง่ใด เพื่อให้สร้างความมั่งคั่งได้จริง?
ผู้เขียนเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนกรอบความคิดเกี่ยวกับเงิน:
หยุดคิดว่าเงินของคุณสามารถซื้ออะไรได้บ้าง: ผู้คนจำนวนมาก รวมถึงผู้ที่มีรายได้สูง ประสบปัญหาทางการเงินเพราะมองว่าเงินเป็นเพียงเครื่องมือในการซื้อสิ่งของต่างๆ ซึ่งนำไปสู่การใช้จ่ายเกินตัว
เริ่มคิดว่าเงินของคุณสามารถสร้างรายได้อะไรได้บ้าง: นี่คือระดับความคิดที่สำคัญกว่า เมื่อคุณเริ่มมองเงินว่าเป็นเครื่องจักรในการสร้างรายได้ คุณจะให้ความสำคัญกับการลงทุนและการงอกเงยของเงิน
คิดต่อไปว่าเงินที่เงินของคุณสร้างรายได้นั้นสามารถสร้างรายได้อะไรได้อีก: นี่คือแนวคิดของดอกเบี้ยทบต้น ซึ่งเป็นพลังที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างความมั่งคั่ง เมื่อคุณเข้าใจว่าเงินของคุณสามารถทำงานให้คุณได้ และเงินที่ได้มาจากการทำงานนั้นก็สามารถทำงานต่อได้อีก คุณจะเห็นเส้นทางสู่ความมั่งคั่งอย่างชัดเจน

5. ตลาดหุ้นมีความผันผวนและอาจเกิดวิกฤตได้บ่อยครั้ง นักลงทุนควรจัดการกับความกลัวและความโลภที่มาพร้อมกับความผันผวนนี้อย่างไร?
ตลาดหุ้นขึ้นลงเป็นเรื่องปกติ วิกฤตการณ์ ตลาดหมี และการปรับฐานเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่คาดหวังได้ และไม่เคยเป็นจุดสิ้นสุดของโลก ผู้เขียนเน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญดังนี้:
คาดการณ์การปรับตัวลงของตลาด: วิกฤตการณ์ทางการเงินในระดับเดียวกับปี 2008 สามารถเกิดขึ้นได้ทุกๆ 25 ปี หรือบ่อยกว่านั้น แต่ตลาดจะกลับมาสูงขึ้นเสมอในระยะยาว
อย่าพยายามจับจังหวะตลาด : ไม่มีใครสามารถทำนายการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างน่าเชื่อถือ การพยายามซื้อเมื่อตลาดต่ำสุดและขายเมื่อตลาดสูงสุดเป็นเกมที่แพ้มาโดยตลอด และจะทำให้คุณพลาดโอกาสในการเติบโตที่สำคัญ
พัฒนาระเบียบวินัยทางอารมณ์: ความกลัวและความโลภเป็นอารมณ์หลักที่ขับเคลื่อนนักลงทุน ความกลัวจะทำให้คุณไม่กล้าลงทุน หรือขายทิ้งด้วยความตื่นตระหนกเมื่อตลาดตก ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เลวร้ายที่สุด สิ่งสำคัญคือต้อง "ทำให้ใจคุณพร้อม" และยอมรับความเสี่ยงที่มาพร้อมกับผลตอบแทนที่คุณต้องการ หากคุณไม่สามารถรับได้เมื่อความมั่งคั่งของคุณลดลงครึ่งหนึ่ง และยังคงยึดมั่นในแผนการลงทุน ก็ยังไม่ควรลงทุนในหุ้น

6. มีคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดสรรสินทรัพย์ ในพอร์ตโฟลิโออย่างไร และควรพิจารณาปัจจัยใดบ้าง?
ผู้เขียนให้คำแนะนำการจัดสรรสินทรัพย์ทั่วไปสำหรับพอร์ตโฟลิโอที่เรียบง่าย โดยมีสัดส่วนดังนี้:
หุ้น 75%: ในรูปของ VTSAX ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของพอร์ตโฟลิโอเพื่อการเติบโตของความมั่งคั่งระยะยาว
พันธบัตร 20%: ในรูปของ VBTLX เพื่อช่วยทำให้การลงทุนในหุ้นราบรื่นขึ้น สร้างรายได้ และเป็นเครื่องป้องกันภาวะเงินฝืด
เงินสด 5%: ในรูปของ VMRXX เพื่อรองรับความต้องการใช้จ่ายและเป็นสภาพคล่อง
คุณสามารถปรับสัดส่วนเหล่านี้ได้ตามความเหมาะสมกับปัจจัยส่วนตัว:
ช่วงอายุ: ในช่วงวัยหนุ่มสาวและอยู่ในช่วงสะสมความมั่งคั่ง ผู้เขียนแนะนำให้เน้นหุ้นเกือบทั้งหมด เพื่อใช้ประโยชน์จากผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว
ความทนทานต่อความผันผวน : หากคุณต้องการการลงทุนที่ราบรื่นขึ้นและยอมรับผลตอบแทนระยะยาวที่อาจต่ำลงได้ ให้เพิ่มสัดส่วนใน VBTLX แต่หากคุณสบายใจกับความผันผวนและต้องการการเติบโตที่สูงขึ้น ให้เพิ่มสัดส่วนใน VTSAX
แผนในอนาคต: เมื่อเข้าใกล้ช่วงเกษียณอายุ คุณอาจพิจารณาเพิ่มสัดส่วนของพันธบัตรเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตโฟลิโอ

7. ทำไมผู้เขียนถึงเป็นผู้สนับสนุน Vanguard อย่างแข็งขัน และอะไรคือสิ่งที่ทำให้บริษัทนี้ "พิเศษ" ในสายตาของผู้เขียน?
ผู้เขียนเป็นผู้สนับสนุน Vanguard อย่างแข็งขัน เนื่องจากโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์และพันธกิจของบริษัทที่มุ่งเน้นประโยชน์ของนักลงทุน:
เป็นของลูกค้า : Vanguard เป็นเจ้าของโดยกองทุนเอง ซึ่งในทางกลับกันก็เป็นของลูกค้า ดังนั้นจึงไม่มีผู้ถือหุ้นภายนอกที่ต้องแสวงหากำไร
ดำเนินการโดยมีต้นทุนต่ำที่สุด : เนื่องจาก Vanguard เป็นของลูกค้า บริษัทจึงมีเป้าหมายในการดำเนินงานโดยคิดค่าใช้จ่ายที่ต่ำที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า
ค่าธรรมเนียมต่ำมาก : เป็นผลมาจากโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ Vanguard สามารถเสนอค่าธรรมเนียมการจัดการที่ต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มผลตอบแทนสุทธิให้กับนักลงทุนในระยะยาว
มุ่งเน้นที่กองทุนดัชนี: Vanguard เป็นผู้บุกเบิกกองทุนดัชนี ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการลงทุน
ผู้เขียนยืนยันว่าเขาไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ จาก Vanguard การแนะนำของเขาเป็นเพียงเพราะความเชื่อมั่นในปรัชญาและรูปแบบธุรกิจที่เอื้อประโยชน์แก่นักลงทุนรายย่อยมากที่สุด

8. การบรรลุอิสรภาพทางการเงินหมายถึงอะไร และต้องใช้เงินเท่าไรในการไปถึงจุดนั้น?
การบรรลุอิสรภาพทางการเงินหมายถึงการมีเงินเก็บมากพอที่รายได้จากการลงทุนสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายประจำปีของคุณได้ ผู้เขียนเสนอ "กฎ 4%" เป็นแนวทาง:
กฎ 4%: หาก 4% ของสินทรัพย์ที่คุณลงทุนสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายประจำปีของคุณได้ คุณก็ถือว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว
เป้าหมายการลงทุน: กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การมีเงินลงทุนเท่ากับ 25 เท่าของค่าใช้จ่ายประจำปีของคุณ
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่ายปีละ 60,000 ดอลลาร์ คุณจะต้องมีเงินลงทุน 1,500,000 ดอลลาร์ เพื่อบรรลุอิสรภาพทางการเงิน
ซึ่งหมายความว่า การมีอิสรภาพทางการเงินนั้นเกี่ยวข้องกับการควบคุมความต้องการและการใช้จ่ายของคุณมากพอๆ กับการสร้างสินทรัพย์ หากค่าใช้จ่ายของคุณสูง เป้าหมายเงินที่คุณต้องการก็จะสูงขึ้นอย่างมาก
เมื่อถึงจุดนี้ คุณจะมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่จะขยายไลฟ์สไตล์ คิดเกี่ยวกับการให้เหมือนมหาเศรษฐี มีลูกหากวางแผนไว้ และพิจารณาซื้อบ้านเมื่อคุณสามารถซื้อได้อย่างง่ายดายและเป็นเพียง "ความสุขส่วนตัวที่แพง" ไม่ใช่การลงทุน


  continue reading

71 פרקים

כל הפרקים

×
 
Loading …

ברוכים הבאים אל Player FM!

Player FM סורק את האינטרנט עבור פודקאסטים באיכות גבוהה בשבילכם כדי שתהנו מהם כרגע. זה יישום הפודקאסט הטוב ביותר והוא עובד על אנדרואיד, iPhone ואינטרנט. הירשמו לסנכרון מנויים במכשירים שונים.

 

מדריך עזר מהיר

האזן לתוכנית הזו בזמן שאתה חוקר
הפעלה